Sample Page

Is Am Are : คุณพ่อวุฒิชัย จันทรักษ์ (พ่อแมน)

คุณพ่อสเตเฟน วุฒิชัย จันทรักษ์ (พ่อแมน) อายุ 35 ปี สังกัด สังฆมณฑลอุดรธานี

ปัจจุบัน พ่อรับตำแหน่ง ผู้แทนผู้รับใบอนุญาต/ผู้จัดการโรงเรียนมหาไถ่ศึกษา อุดรธานี
คุณพ่อเจ้าอาวาสวัดนักบุญวินเซน เดอ ปอล และ จิตตาภิบาลเยาวชนสังฆมณฑลอุดรธานี
ภารกิจส่วนใหญ่ พ่อจะอยู่ที่โรงเรียนเป็นหลัก วันจันทร์-วันศุกร์ บริหารโรงเรียนอยู่กับนักเรียน ครู ผู้ปกครอง ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ อภิบาลสัตบุรุษที่วัด งานวัดเจ้าอาวาสอภิบาลศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
ส่วนงานเยาวชนก็มีกิจกรรมต่างๆ เป็นกิจกรรมประจำปี ดำเนินการตามแผนอภิบาลเยาวชนประจำปี แต่หลักๆ จะเป็นกิจกรรมออกเยี่ยมเยาวชนตามเขตต่างๆ หรือตามค่ายคำสอนต่างๆ ช่วงค่ายคำสอน ค่ายเยาวชน ค่ายยุวธรรมทูต ภาคฤดูร้อน

ความคาดหวังในงานและในเยาวชน

          เนื่องด้วยพ่อทำงานโรงเรียน อยู่กับนักเรียน ก็ถือว่าพ่ออยู่กับเด็กและเยาวชนโดยไม่รู้ตัว สิ่งที่พบปัญหาในเด็กและเยาวชนในโลกปัจจุบัน…
          เนื่องด้วยเทคโนโลยี มีความเจริญก้าวหน้า พร้อมทั้งโควิดที่เกิดขึ้น ทำให้เด็กและเยาวชนจดจ่อกับการให้ความสนใจกับมือถือและสื่อในมือถือมากจนเกิดไป ทำให้บางคนสมาธิสั้นบ้าง ไม่ฟังคนอื่นบ้าง พ่อแม่ไม่สามารถควบคุมได้บ้าง ดังนั้นสิ่งที่พ่อคาดหวังในงานเยาวชน
ประการแรก การ นำเยาวชนกลับมาสนใจพระมากขึ้นในชีวิต เมื่อความเจริญก้าวหน้าในสังคมมีผลกระทบต่อความเชื่อ ความศรัทธาของเยาวชนในโลกปัจจุบัน ความคาดหวัง จึงต้องการนำเยาวชนกลับสู่ความสนใจพระมากขึ้น

ประการที่สอง ต้องการเข้าใจ เดินตาม เคียงข้างเยาวชน ต้องพูดภาษาเดียวกันกับเยาวชน อยู่ในที่ที่เขาอยู่ คือ โลกโซเชียลและนำทางเขาไปในทางที่ดี

ประการที่สาม เยาวชนต้องก้าวไปด้วยกันกับพระศาสนจักร กับ คุณพ่อ ซิสเตอร์ พี่น้องสัตบุรุษ และคนต่างความเชื่อ เป็นตัวอย่างที่ดี เป็นแสงสว่างสู่โลก

Is Am Are : คุณไชยวัฒน์ ออเปะ (พี่เก้ว)

สวัสดีครับ ผมชื่อ หลุยส์ คอนซากา ไชยวัฒน์ ออเปะ สามารถเรียกผมว่า  เก้ว หรือ วัฒน์ ก็ได้ครับ อายุผมกำลังจะ 33 ปีบริบูรณ์ ในเดือนมิถุนายนนี้ครับ  ตอนนี้ผมเป็นเจ้าหน้าที่ แผนกเยาวชนของสังฆมณฑลเชียงใหม่

มาร่วมงานเยาวชนได้อย่างไร?

ตามความเป็นจริงแล้ว ผมไม่เคยคิดมาก่อนหรือตั้งใจที่จะมาทำงานในตรงนี้ครับ แต่ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 ผมได้ตัดสินใจเปลี่ยนกระแสเรียกจากการเป็นสามเณร และตั้งใจจะกลับมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่ ช่วงที่ผมรอเข้ามหาวิทยาลัย ผมจึงได้ขอช่วยงานสังฆมณฑลไปก่อน ผมจึงถูกส่งไปช่วยงานที่ศูนย์คำสอนแม่ริม พอทำงานได้ระยะหนึ่ง ผมถูกส่งไปศึกษาอบรมที่ประเทศฟิลิปปินส์อีก 1 ปี พอกลับมา คุณพ่อที่รับผิดชอบงานด้านเยาวชน ณ ขณะนั้นได้ขอให้ผมเข้ามาช่วยงานในแผนกเยาวชน ผมทำงานได้อีก 3 ปี จากนั้นผมออกไปหาประสบการณ์ข้างนอกอีก 1 ปี และได้กลับไปเรียนต่อคริสตศาสตร์ ที่วิทยาลัยแสงธรรมอีก 5 ปี หลังจากผมจบการศึกษาที่วิทยาลัยแสงธรรม ผมก็ได้กลับมาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่แผนกเยาวชนอีกครั้งจนถึงปัจจุบัน 

ความคาดหวังในการทำงานเยาวชน?

สิ่งที่ผมคาดหวังมากที่สุดคือ

1. ด้านบุคลากร อยากให้มีแผนงานการเตรียมคนที่จะมาเป็นเจ้าหน้าที่ที่ชัดเจนที่จะมาประสานงานต่อในรุ่นต่อๆไป

2. ด้านเยาวชน อยากให้แต่ละวัดมีกลุ่มเยาวชนของวัดที่เข้มแข็ง เยาวชนต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ถึงเยาวชนจะลงมาอยู่ในเมืองก็ตาม อยากให้เยาวชนมาเข้าวัดอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง และคาดหวังให้เยาวชนทุกคนประสบความสำเร็จในชีวิตหน้าที่ การงานและเป็นเยาวชนผู้มีความเชื่อที่มั่นคง

สาส์นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส โอกาสวันเยาวชนโลก ครั้งที่ 38

สาส์นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส

โอกาสวันเยาวชนโลก ครั้งที่ 38

26 พฤศจิกายน ค.ศ. 2023

“จงชื่นชมยินดีในความหวัง” (รม 12:12)

เยาวชนที่รัก

          ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พ่อได้พบกับเพื่อนเยาวชนมากมายหลายแสนคนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก
ที่พร้อมใจกัน เดินทางมาร่วมงานชุมนุมเยาวชนโลกที่เมืองลิสบอน ในช่วงเวลาการระบาดใหญ่และสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลก พวกเราหวังว่าช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ของการพบปะกันของเยาวชน ท่ามกลางพระเจ้าที่ประทับอยู่กับเราจะสามารถเกิดขึ้นได้ และความหวังของเรานั้นก็เป็นจริง จากเยาวชนจำนวนมากที่เข้าร่วมงานใน
ครั้งนี้ รวมถึงตัวพ่อเองด้วย การชุมนุมเยาวชนนี้ แสดงให้เห็นว่า ความหวัง ความตั้งใจของเราเป็นจริงขึ้นมาได้
การชุมนุมเยาวชนโลกที่ลิสบอน มีบรรยากาศที่งดงามมาก เป็นการประจักษ์พยานถึงการเริ่มต้นใหม่ที่แท้จริง
เป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยแสงสว่างและความสุข

           ในช่วงท้ายของมิสซาสุดท้ายที่ “ลานแห่งพระคุณ (ลานแห่งพระพร)” พ่อได้กล่าวถึงขั้นต่อไปของ
การแสวงบุญข้ามทวีปของพวกเราที่จะมีขึ้นที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในปี 2027 ก่อนหน้าที่จะถึงงานชุมนุมเยาวชนโลก ปี 2027 พ่อขอเชิญชวนเยาวชนทั้งหลายเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ (Jubilee) ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ในปี 2025 ที่นั่นพวกลูกก็จะเป็นหนึ่งในผู้แสวงบุญแห่งความหวังเช่นกัน

                    สำหรับพวกลูกเยาวชน พวกลูกคือความหวัง อันน่ายินดีของพระศาสนจักรและมนุษยชาติอย่างแท้จริง และเป็นความหวังที่ขับเคลื่อนอยู่เสมอ พ่ออยากจะจับมือพวกลูก ร่วมเดินทางกับพวกลูกไปด้วยกันในเส้นทางแห่งความหวังนี้ พ่ออยากจะพูดคุยกับพวกลูกในเรื่องของความชื่นชมยินดี ความหวัง รวมไปถึงความเศร้า ความกังวล และเรื่องราวของพี่น้องในครอบครัวของมนุษยชาติเรา สำหรับการเตรียมการเฉลิมฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ (Jubilee) ในช่วงสองปีนี้ พวกเราจะรำพึงตามคำกล่าวของนักบุญเปาโลที่ว่า “จงชื่นชมยินดีในความหวัง” (รม 12:12) และตามประกาศกอิสยาห์ที่ว่า “ผู้ที่มีความหวังในพระเจ้า เขาจะวิ่งและไม่เหน็ดเหนื่อย” (อสย 40:31)

อะไรคือต้นกำเนิดของความชื่นชมยินดีนี้?

          “ความชื่นชมยินดีในความหวัง” เป็นการให้กำลังใจของนักบุญเปาโลให้กับชุมชนที่กรุงโรม ในช่วงเวลาที่ได้ประสบกับความเบียดเบียนครั้งใหญ่ “ความยินดีในความหวัง” ที่ได้รับการประกาศโดยอัครสาวก คือ ผลจากการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระเยซูเจ้า ไม่ใช่ผลงาน แผนการ หรือความสามารถของมนุษย์ แต่เป็นสิ่งที่พระทำให้เกิดขึ้น ความยินดีของชาวคริสต์มาจากพระเจ้า มาจากความตระหนักถึงความรักของพระเจ้าที่ให้แก่พวกเรา

          พระสันตะปาปาเบเนดิกซ์ที่ 16 สะท้อนกลับประสบการณ์ของพระองค์ ตอนงานชุมนุมโลกที่กรุงมาดริด ในปี 2011 ได้ถามว่า “ความยินดีมากจากไหน? สามารถอธิบายออกมาได้อย่างไร? แน่นอนว่ามีหลายปัจจัยที่สามารถนำมากล่าวถึงได้ แต่สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือ ความแน่นอนที่มีพื้นฐานมาจากความศรัทธา ฉันเป็นที่ต้องการ ฉันมีงานที่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ ฉันได้รับการยอมรับ ฉันเป็นที่รัก” ท่านได้กล่าวไว้ว่า “ท้ายที่สุดแล้ว
เราจำเป็นต้องมีความรู้สึกเป็นที่ยอมรับโดยไม่มีเงื่อนไข เพียงแค่พระเจ้ายอมรับฉัน และฉันมั่นใจในสิ่งนี้ ฉันจะเข้าใจและตระหนักว่าเป็นเรื่องดีที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ ถึงแม้จะประสบกับความยากลำบากหลายต่อหลายครั้ง
แต่เมื่อเรามีความศรัทธา ก็จะทำให้เรามีความสุขจากภายในได้” (Roman Curia, 22 December 2011)

ความหวังของฉันอยู่ที่ไหน?

          เยาวชนเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความหวังและความฝัน ได้ถูกกวนให้เข้ากันด้วยความสวยงามมากมาย
ที่เพิ่มคุณค่าให้ชีวิตของพวกเรา ความงดงามของสิ่งสร้างจากพระเจ้า ความสัมพันธ์กับเพื่อนและคนรัก การพบเจอของศิลปะและวัฒนธรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความพยายามในการทำงานเพื่อสันติภาพ ความยุติธรรม ความเป็นพี่น้องสากล และสิ่งต่างๆ อีกมากมาย เราอยู่ในช่วงเวลาที่หลายคนรวมถึงเยาวชนบางคนกำลังขาดความหวัง เป็นเรื่องน่าเศร้า ที่เยาวชนรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเรา กำลังเผชิญสภาวะสงคราม ความขัดแย้งรุนแรง การถูกกลั่นแกล้งและความยากลำบากต่างๆ การถูกครอบงำด้วยความสิ้นหวัง ความกลัว และสภาวะซึมเศร้า
พวกเขารู้สึกเหมือนอยู่ในที่คุมขังมืด ที่แสงสว่างส่องไปไม่ถึง อัตราการฆ่าตัวตายของเยาวชนในหลายประเทศ
มีสัญญาณที่น่าเป็นห่วง ในสถานการณ์นี้ เราจะสามารถมีประสบการณ์ของความยินดีและความหวัง ที่นักบุญเปาโลพูดถึงได้อย่างไร? มีความเสี่ยงที่เราจะเป็นเหยื่อของความล้มเหลวนี้ คิดว่าการทำความดีเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ เนื่องจากจะไม่มีใครเห็นหรือไม่มีใครชื่นชม เราอาจจะพูดกับตัวเองว่า “ความหวังของข้าพเจ้าอยู่ที่ใดเล่า ใครจะได้เห็นความสุขของข้าพเจ้า” (โยบ 17:15)

                    เมื่อเราคิดถึงโศกนาฏกรรมของมนุษย์ โดยเฉพาะความทุกข์ทรมานของผู้ศักดิ์สิทธิ์ เราก็สามารถ
สวดภาวนาต่อพระเจ้า และถามพระเจ้าได้เช่นกันว่า “ทำไม?” และในขณะเดียวกัน เราก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของคำตอบของพระเจ้าสำหรับปัญหานี้ได้ โดยการสร้างของพระเจ้าที่เป็นภาพลักษณ์ของพระองค์ พวกเราสามารถเป็นสัญญาณถึงความรักของพระเจ้า ที่ก่อให้เกิดความยินดีและความหวังในสถานการณ์ที่หมดหวังได้ พ่อคิดถึงภาพยนตร์เรื่อง “ชีวิตเป็นสิ่งสวยงาม” ที่มีคุณพ่อวัยหนุ่มคนหนึ่ง เป็นคนที่ไวต่อความรู้สึกและมีความคิดสร้างสรรค์ จัดการเปลี่ยนแปลงความรุนแรงในชีวิตจริงไปเป็นการผจญภัยและเกม คุณพ่อท่านนี้ทำให้ลูกชายของเขาสามารถมองสิ่งต่างๆ ด้วย “สายตาแห่งความหวัง” ได้ ปกป้องเขาจากความน่าสะพรึงกลัวของค่ายกักกัน
เก็บรักษาความไร้เดียงสาของลูกชายไว้ ป้องกันไม่ให้ความอาฆาตพยาบาทของมนุษย์ มาทำลายอนาคตของเขา เรื่องราวเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นในภาพยนตร์เท่านั้น พวกเราสามารถเห็นได้จากชีวิตของเหล่านักบุญทั้งหลาย ที่เป็นพยานแห่งความหวัง แม้จะอยู่ท่ามกลางตัวอย่างโหดร้ายมากมายของมนุษย์ พวกเราสามารถคิดถึงนักบุญ
แม็กซิมิเลียน มารีย์ โคลเบ, นักบุญโจเซฟีน บาคิตา, บุญราศีโยเซฟ วิกตอเรีย อุลมา และลูกๆ ทั้ง 7 คนของเขา

          นักบุญเปาโล ที่ 6 พระสันตะปาปา อธิบายเรื่องความสามารถในการปลูกฝังความหวังในหัวใจของมนุษย์ไว้ดังนี้ “คริสตชนหรือกลุ่มคริสตชนที่อยู่ท่ามกลางชุมชนของพวกเรา สามารถเปล่งประกายความศรัทธาของ
พวกเขาแบบเรียบง่ายและอย่างตรงไปตรงมา ในการดำรงคุณค่าและความหวังของพวกเขา แม้ในสิ่งที่มองไม่เห็นหรือแม้กระทั่งในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้” (Evangelii Nuntiandi, 21)

ความหวัง คุณธรรม “ตัวเล็กๆ”

          นักเขียนชาวฝรั่งเศส Charles Peguy ในช่วงต้นของบทกลอนของเขาในเรื่องความหวัง กล่าวถึง คุณธรรมทางเทววิทยา 3 อย่างคือ ความเชื่อ ความหวัง และความรัก เปรียบเสมือนพี่น้อง 3 คน ที่เดินไปพร้อมกัน

“ความหวัง-น้องคนเล็ก-เดินเคียงข้างพี่สาวทั้งสองไป ที่มองไม่เห็นได้ในทางปฏิบัติ

………

เป็นเธอ เจ้าเด็กน้อย ที่เดินพาพวกเขาไป

เพราะว่าความเชื่อนั้นมองเห็นแต่เพียงสิ่งที่เป็น

และความรักจะรักแต่ในสิ่งที่เป็น

แต่ความหวัง รักในสิ่งที่จะเป็น

………

เธอคือสิ่งที่ทำให้ผู้อื่นเดินต่อไปได้

เธอคือสิ่งที่นำพวกเขาต่อไป

และทำให้พวกเขาเดินไปพร้อมๆ กัน”

(จาก The Portico of the Mystery of the Second Virtue)

          พ่อก็เช่นกัน ที่เชื่อมั่นว่า ความหวังมีความนอบน้อม ตัวเล็ก แต่เป็นสิ่งที่จำเป็น ลองคิดกันดูว่า เราจะสามารถอยู่ได้อย่างไร ถ้าไม่มีความหวัง? ในแต่ละวันของเราจะเป็นอย่างไร? ความหวังเปรียบเสมือนเกลือของชีวิตเราในแต่ละวัน

ความหวัง-แสงสว่างที่ส่องในเวลาค่ำคืน

          ตามธรรมเนียมของคริสตชนแล้ว วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์เป็นวันแห่งความหวัง อยู่ระหว่างวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์และวันอาทิตย์ปัสกา เปรียบเสมือนดินแดนที่ไม่มีมนุษย์อยู่ระหว่างความสิ้นหวังของอัครสาวกและความชื่นชมยินดีของพวกเขาในเช้าวันปัสกา เป็นที่ซึ่งความหวังเกิดขึ้นมา ในวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์พระศาสนจักรระลึกถึงการสิ้นพระชนม์อย่างสงบของพระเยซูคริสตเจ้า เราเห็นภาพนี้ในหลากหลายรูปแบบที่แสดงให้เห็นถึงพระเจ้า แสงที่เปล่งประกาย ผู้ทรงดำดิ่งสู่ห้วงแห่งความมืดมนที่สุดแล้วก้าวข้ามผ่านมาได้ พระเจ้าไม่เพียงแค่มองด้วยความเห็นอกเห็นใจ ต่อประสบการณ์ความตายของเราหรือทรงเรียกเราจากระยะไกลเท่านั้น พระองค์จะเสด็จมาในช่วงเวลาแห่ง
ความยากลำบากของเรา เป็นเหมือนแสงสว่างที่ส่องในความมืดและเอาชนะช่วงเวลานั้นได้ (เทียบ ยน 1:5) นี่เป็นการกล่าวอธิบายที่สวยงาม โดยใช้บทกวีภาษาโซซาของแอฟริกาใต้ “ถึงความหวังจะสิ้นสุดลง แต่ด้วยบทกวีนี้
ฉันฟื้นความหวังขึ้นมา ความหวังของฉันถูกฟื้นขึ้นมาเพราะว่าความหวังของฉันอยู่ในพระเจ้า ฉันหวังว่าพวกเรา
ทุกคนจะเป็นหนึ่งเดียวกัน! จงตั้งมั่นในความหวัง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีอยู่ไม่ไกล”

                    ถ้าเราคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ ความหวังของพระนางมารีย์ ผู้ที่มั่นคงแน่วแน่อยู่ใต้กางเขนของพระเยซูเจ้า เชื่อมั่นว่าผลลัพธ์ที่ดีใกล้เข้ามาแล้ว พระนางมารีย์เป็นผู้หญิงแห่งความหวัง เป็นพระมารดาแห่งความหวังบนเนินกัลวาริโอ “แม้ดูเหมือนจะไม่มีความหวัง”(รม 4:18) พระนางมารีย์ไม่เคยหวั่นไหวในความมั่นใจในเรื่องการกลับคืนชีพของ
พระบุตร ตามที่พระบุตรของพระนางดำรัสไว้ แม่พระมารีย์แต่งเติมความเงียบของวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ด้วยความรักและความคาดหวังที่เต็มไปด้วยความหวัง และให้กำลังใจเหล่าอัครสาวกด้วยความมั่นใจว่า พระเยซูเจ้าจะเอาชนะความตายและความชั่วร้ายนั้น จะไม่ใช่คำพูดสุดท้ายของพระองค์

                    ความหวังของคริสตชน ไม่ใช่การมองโลกในแง่ดีแบบง่ายๆ ไม่ใช่ความงมงาย เป็นเรื่องแน่นอนที่ต้อง
มีพื้นฐานของความรักและความศรัทธาว่าพระเจ้าจะไม่ทอดทิ้งเรา และซื่อสัตย์ต่อคำมั่นสัญญาของพระองค์
“แม้ข้าพเจ้าจะต้องเดินไปในหุบเขาที่มืดมิด ข้าพเจ้าก็จะไม่กลัวอันตรายใดๆ เพราะพระองค์ทรงอยู่กับข้าพเจ้า”
(สดด 23:4) ความหวังของคริสตชน ไม่ใช่การปฏิเสธความโศกเศร้าและความตาย เป็นการเฉลิมฉลองของ
พระคริสตเจ้า ผู้ฟื้นคืนชีพ ผู้ทรงอยู่เคียงข้างเราเสมอ แม้ว่าพระองค์ดูเหมือนอยู่ไกลจากเรา “พระคริสตเจ้าทรงเป็นองค์ความสว่างอันยิ่งใหญ่แห่งความหวัง และทรงนำทางเราในยามค่ำคืน เพราะพระองค์ทรงเป็น ‘ดวงประจำรุ่งสุกใส’” (Christus Vivit, 33)

การบำรุงรักษาความหวัง

          หลังจากเปลวไฟแห่งความหวังได้ถูกจุดขึ้นในตัวของเราแล้ว อาจจะมีบางครั้งที่มีความเสี่ยงต่อการถูก
ดับลงด้วยความกังวล ความกลัว ความกดดันต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เปลวไฟแห่งความหวังนี้ ต้องการออกซิเจนเพื่อช่วยเผาไหม้ต่อไป เพื่อให้เติบโตไปเป็นกองไฟแห่งความหวังอันยิ่งใหญ่ สายลมที่อ่อนโยนของพระจิตช่วย
เลี้ยงดูความหวังของเรา และมีวิธีอีกมากมายที่เราจะสามารถให้ความร่วมมือกับสิ่งนี้ได้

          ความหวังถูกหล่อเลี้ยงได้โดยการภาวนา การภาวนาจะรักษาและต่ออายุความหวังได้ การภาวนาช่วยพัดให้ความหวังจุดปะทุเป็นเปลวไฟ “การภาวนาคือพลังแรกของความหวัง เมื่อเราภาวนา ความหวังก็จะเติบโตและเคลื่อนที่ไปข้างหน้า” (Catechesis, 20 May 2020)  การสวดภาวนาเป็นเหมือนการปีนขึ้นสู่ยอดเขา ขณะนี้เริ่มปีนจากที่พื้น ดวงอาทิตย์อาจจะถูกบังด้วยเมฆ แต่เมื่อเราปีนขึ้นไปเหนือเมฆแล้ว แสงสว่างและความอบอุ่นก็จะห่อหุ้มเราไว้ เราจะเห็นอีกครั้งว่าดวงอาทิตย์ยังคงอยู่ที่เดิมตรงนั้นตลอดเวลา แม้ในช่วงเวลาที่ทุกสิ่งรอบตัวเรา
มืดมิดและน่าเบื่อ

          เพื่อนเยาวชนที่รัก เมื่อพวกลูกรู้สึกว่าถูกรอบล้อมไปด้วยเมฆหมอกแห่งความกลัว ความสงสัย ความวิตกกังวลและพวกลูกไม่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ได้ ให้สวดภาวนา ในเวลาที่ไม่มีใครสักคนฟังพวกลูก พระเจ้ายังฟังลูกอยู่ (Benedict XVI, Spe Salvi, 32)  ให้พวกเราแบ่งเวลาแต่ละวัน สำหรับการพักผ่อนในพระเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เผชิญกับปัญหา “วิญญาณข้าพเจ้าเอ๋ย จงพักผ่อนในพระเจ้าเท่านั้น ความหวังของข้าพเจ้ามาจากพระองค์” (สดด 62:5)

          ความหวังได้รับการหล่อเลี้ยงจากการตัดสินใจในแต่ละวันของเรา คำเชื้อเชิญของนักบุญเปาโล ให้ชื่นชมยินดีในความหวังเรียกร้องสำหรับทางเลือกที่เป็นรูปธรรม ในการดำเนินชีวิตแต่ละวันของเรา พ่ออยากกระตุ้นให้พวกลูกทุกคนเลือกรูปแบบการดำเนินชีวิตที่มีพื้นฐานของความหวัง พ่อขอยกตัวอย่างสักหนึ่งตัวอย่าง
บนโลกโซเชียล การแบ่งปันสิ่งที่เป็นลบมักจะง่ายกว่าการแบ่งปันเรื่องราวที่เสริมสร้างแรงบันดาลใจให้มีความหวังเสมอ ดังนั้น พ่ออยากเสนอแนะอย่างเป็นรูปธรรมว่า ในแต่ละวันให้พวกลูกพยายามแบ่งปันคำพูดแห่งความหวังให้ผู้อื่น พยายามหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความหวัง ในชีวิตของเพื่อน และทุกคนที่อยู่รอบข้างพวกลูก สำหรับ “ความหวังนั้นเรียบง่ายถ่อมตน เป็นคุณธรรมที่ถูกสร้างขึ้นในแต่ละวัน พวกลูกต้องจำไว้ว่า ในแต่ละวันเราทำการสร้างผลผลิตแรกของพระจิต ที่ทำงานในตัวเราผ่านทางการกระทำและสิ่งเล็กน้อย” (Morning Meditation, 29 October 2019)

การจุดคบเพลิงแห่งความหวัง

          บางครั้ง เมื่อพวกลูกออกไปข้างนอกกับเพื่อนๆ ในช่วงกลางคืน พวกลูกนำโทรศัพท์มือถือไปด้วย และใช้มันเป็นไฟฉายในคอนเสิร์ตใหญ่ๆ พวกลูกหลายพันคนใช้หลอดไฟหรือเทียนแบบใหม่ โยกไปตามจังหวะของเพลง มันเป็นภาพที่น่าประทับใจมาก ช่วงเวลากลางคืนแสงสว่างจะทำให้เราเห็นสิ่งต่างๆ ในมุมใหม่ และในความมืด ความงดงามก็ฉายแสงออกมา ดังนั้น ถ้าเป็นแสงสว่างแห่งความหวังที่เป็นพระคริสตเจ้าจากพระเยซูเจ้า จากการกลับคืนชีพของพระองค์ ชีวิตของเราก็จะมีแสงสว่างในพระองค์ เราจะเห็นทุกสิ่งในมุมมองใหม่

          พวกเราได้รับการบอกเล่ามาว่า เมื่อประชาชนมาหา นักบุญยอห์น ปอล ที่2 พระสันตะปาปา มาเล่าให้พระองค์ฟังถึงปัญหา คำถามแรกที่พระองค์ถามคือ “คุณจะมองปัญหานี้ในแสงสว่างของความศรัทธาได้อย่างไร?” เมื่อพวกเรามองสิ่งต่างๆ ด้วยแสงสว่างแห่งความหวัง สิ่งเหล่านั้นจะต่างออกไป พ่อขอให้กำลังใจพวกลูก ตั้งแต่ตอนนี้ให้เริ่มมองสิ่งต่างๆ ด้วยความหวัง ขอบคุณพระเจ้าสำหรับของขวัญแห่งความหวัง คริสตชนที่เต็มไปด้วย
ความชื่นชมยินดีใหม่ ที่มาจากภายใน ความท้าทายและความยากลำบากต่างๆ ยังคงมีอยู่เสมอ แต่ถ้าเราเผชิญสิ่งเหล่านี้ด้วยความหวังที่เต็มไปด้วยความศรัทธา เราจะสามารถเผชิญกับความท้าทายและความยากลำบากต่างๆ ได้ และพวกเราเองนี้แหละ ที่จะสามารถเป็นสัญญาณเล็กๆ แห่งความหวังให้กับผู้อื่นได้

          พวกลูกแต่ละคน สามารถเป็นสัญญาณไฟ นำความเชื่อศรัทธาของเราออกมาเป็นรูปธรรม นำไปสู่
ความเป็นจริงและไวต่อความต้องการของพี่น้องรอบตัวเรา ขอให้เรานึกถึงอัครสาวกของพระเยซูเจ้า ในวันหนึ่งบนภูเขาสูง ได้เห็นพระองค์ปรากฏกายด้วยแสงอันรุ่งโรจน์ ถ้าพวกเขาอยู่ที่นั่นมันก็คงจะเป็นประสบการณ์ที่สวยงามสำหรับพวกเขา แต่ผู้อื่นก็จะไม่ได้รับประสบการณ์นั้น พวกเขาก็ได้เดินทางลงมาจากภูเขานั้น ทำให้พวกเราได้รับประสบการณ์นั้นด้วย เราต้องไม่หนีไปจากโลก แต่รักในช่วงเวลาที่พระเจ้ามอบให้กับเรา โดยไม่ใช่อย่างไร้เหตุผล
พวกเราสามารถหาความสุขได้โดยการแบ่งปันพระพรที่เราได้รับให้กับพี่น้องของเรา ที่พระเจ้าประทานให้เราได้พบเจอในแต่ละวัน

          เยาวชนที่รัก อย่ากลัวที่จะแบ่งปันความหวังและความชื่นชมยินดี ที่พระเจ้าทรงกลับคืนชีพแก่ผู้อื่น
จงรักษาประกายไฟที่จุดประกายในตัวพวกลูก แต่ในขณะเดียวกันก็แบ่งปันให้กับผู้อื่นด้วย พวกลูกจะเข้าใจว่า
เปลวไฟเหล่านี้ จะยิ่งใหญ่เมื่อได้มอบให้กับผู้อื่น เราไม่สามารถเก็บความหวังของคริสตชนไว้กับพวกเราได้ เหมือนกับความรู้สึกอบอุ่น เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่มีความหมายสำหรับทุกคน พวกลูกจงอยู่ใกล้ชิดกับเพื่อนที่อาจจะมีรอยยิ้มจากภายนอก แต่ภายในกำลังร้องไห้ เนื่องจากขาดความหวัง อย่าปล่อยให้ตัวเองมัวหมองด้วยความ
เฉยเมยและความปัจเจกชน เปิดตัวเองเหมือนคลองที่เต็มไปด้วยความหวังของพระเยซูเจ้าที่สามารถไหลผ่านและแพร่กระจายไปในทุกๆ พื้นที่ที่พวกลูกอาศัยอยู่

          “พระคริสตเจ้าทรงพระชนม์! พระองค์ทรงเป็นความหวังของเรา และด้วยวิธีการอันน่าอัศจรรย์ พระองค์ทรงนำความเป็นหนุ่มสาวให้โลกของเรา” (Christus Vivit, 1) พ่อกล่าวถ้อยคำเหล่านั้นแก่พวกลูกเมื่อเกือบห้าปี
ที่แล้ว หลังจากการประชุมสมัชชาเยาวชน พ่อให้กำลังใจพวกลูกทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำงานในพันธกิจของเยาวชน ให้อ่าน Final Document of 2018 และ Christus Vivit ถึงเวลาที่จะเก็บเกี่ยวสิ่งที่ได้จากสถานการณ์นั้นและทำงานร่วมกันด้วยความหวัง เพื่อการดำเนินการอันน่าจดจำนั้นอย่างเต็มที่

                    ให้พวกเราฝากชีวิตไว้กับพระนางมารีย์ พระมารดาแห่งความหวัง พระนางมารีย์สอนให้เรารู้จักวิธีการประคองพระเยซูเจ้า ซึ่งคือความยินดี ความหวังไว้ในใจเราและแบ่งปันให้กับผู้อื่น เพื่อนๆ ที่รัก ขอให้พวกลูกทุกคนสนุกสนานกับทุกการเดินทาง ที่พวกลูกกำลังเดินอยู่ พ่อขออวยพรลูกและพ่อจะเดินทางไปกับพวกลูก ผ่านทางการภาวนา และขอให้พวกลูกภาวนาให้พ่อเช่นกัน

ให้ไว้ ณ กรุงโรม มหาวิหารนักบุญยอห์น ลาเตรัน วันที่ 9 พฤศจิกายน 2023

ฉลองวันครบรอบการถวายพระวิหารลาเตรัน

ฟรังซิส

แปลโดย : อาจารย์ธานินท์ ธรรมลงกรต

เรียบเรียงโดย : คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตชนฆราวาส แผนกเยาวชน

ค่ายผู้นำเยาวชนคาทอลิกระดับชาติ ครั้งที่ 38 สังฆมณฑลอุดรธานี

            คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตชนฆราวาส แผนกเยาวชน ร่วมกับสังฆมณฑลอุดรธานี จัดค่ายผู้นำเยาวชนคาทอลิกระดับชาติ ครั้งที่ 38 ระหว่างวันจันทร์ที่ 16 – วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม ค.ศ.2023  ณ วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล บ้านน้อยสามเหลี่ยม  จ.ขอนแก่น ในหัวข้อ “Rise up and Act! Youth for Change” ภายใต้พระวรสาร “พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทาง” (ลก 1:39) มาเป็นหัวข้อนำของค่ายฯ ในปีนี้

            บรรยากาศการเตรียมค่ายผู้นำเยาวชนฯ เริ่มขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม ค.ศ.2023 บรรดาอาสาสมัครจากสังฆมณฑลต่างๆ และทีมงานจากสังฆมณฑลอุดรธานีกว่า 50 ท่าน ช่วยกันเตรียมความพร้อม เพื่อต้อนรับเพื่อนๆ เยาวชนจากทั่วประเทศ


            วันที่ 1 ของค่ายผู้นำเยาวชนคาทอลิกระดับชาติ วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม ค.ศ.2023 เยาวชนทุกคนเริ่มเดินทางเข้าสู่ค่ายผู้นำเยาวชนฯ โดยมีเยาวชนจากทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 300 ท่าน รวมทั้งคุณพ่อจิตตาภิบาลเยาวชน ซิสเตอร์และผู้ประสานงานเยาวชน


            วันที่ 2 ของค่ายผู้นำเยาวชนคาทอลิกระดับชาติ วันอังคารที่ 17 ตุลาคม ค.ศ.2023 กิจกรรมในวันนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมให้กับน้องๆเยาวชน ก่อนที่จะออกไปสัมผัสชีวิตตามศูนย์อบรมต่างๆ ช่วงเช้า อบรมในหัวข้อ ‘Exposure-immersion’ การออกไปสัมผัสชีวิตแบบจุ่มตัว โดย คุณพ่อดลฐิศักดิ์ ฉัตรบรรยงค์
จิตตาภิบาลเยาวชนสังฆมณฑลสุราษฎร์ธานี และร่วมมิซา โดยคุณพ่อดลฐิศักดิ์ ฉัตรบรรยงค์ เป็นประธานในพิธี ช่วงบ่าย อบรมเตรียมความพร้อมในกิจกรรม ‘Rise up and Act’ ต่อด้วยกิจกรรม walk rally และจบกิจกรรมของวันด้วยการภาวนาเทเซ่และรับศีลอภัยบาป


            วันที่ 3 ของค่ายผู้นำเยาวชนคาทอลิกระดับชาติ วันพุธ ที่ 18 ตุลาคม ค.ศ.2023 กิจกรรม ‘Rise up and Act’ ช่วงเช้า ออกเดินทางไปสัมผัสชีวิต โดยแบ่งน้องๆ เยาวชนออกไปตามศูนย์อบรมต่างๆ  ได้แก่ บ้านลูกรัก , บ้านคนตาบอด , บ้านเติมเต็ม , บ้านพักคนชรา , บ้านชีวาศิลป์ และบ้านโนนสมบูรณ์ ช่วงบ่ายไตร่ตรองและสะท้อนผลกิจกรรม ผ่านกระบวนการ SEE – JUDGE – ACT และนำเสนอออกมาในรูปแบบการแสดงในช่วงค่ำ และจบกิจกรรมของวัน ด้วยการสวดสายประคำและมิสซา


            วันที่ 4 ของค่ายผู้นำเยาวชนคาทอลิกระดับชาติ วันพฤหัสบดี ที่ 19 ตุลาคม ค.ศ.2023 อบรม Workshop Youth for Change โดย คุณพ่อธินากร ดำรงอุษาศีล จิตตาภิบาลเยาวชนสังฆมฑลเชียงราย และมิสซา โดยคุณพ่อธินากร ดำรงอุษาศีล เป็นประธานในพิธี ช่วงบ่ายกิจกรรมบูธตามสังฆมณฑลต่างๆ กีฬาฮาเฮ และจบคืนสุดท้ายของค่ายด้วยกิจกรรมคืนพาแลง การแสดงของแต่ละสังฆมณฑล


            วันที่ 5 วันสุดท้ายของค่ายผู้นำเยาวชนคาทอลิกระดับชาติ วันศุกร์ ที่ 20 ตุลาคม ค.ศ.2023 ประเมินผลค่าย ร่วมพิธีมิสซาปิด และพิธีปิดค่ายผู้นำเยาวชนคาทอลิกระดับชาติ ครั้งที่ 38 โดย พระคุณเจ้า
สิริพงษ์ จรัสศรี เป็นประธานในพิธี และประกาศเจ้าภาพ การจัดค่ายผู้นำเยาวชนคาทอลิกระดับชาติ ครั้งที่ 39 ได้แก่ สังฆมณฑลเชียงราย…

ขอบคุณภาพจาก ศูนย์ประสานงาน เยาวชนคาทอลิกสังฆมณฑลอุดรธานี และ สื่อมวลชนคาทอลิก สังฆมณฑลอุดรธานี

ความประทับใจและแรงบันดาลใจ จากการร่วมงานชุมนุมเยาวชนโลก World Youth Day Lisbon 2023

ซิสเตอร์เทเรซา กิตติมา โสภานุสนธิ์

สังกัด : คณะภคินีพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯ

“ประทับใจบรรดาผู้ร่วมเดินทางทุกคนดูแล ช่วยเหลือกัน ร่วมทุกข์ ร่วมสุขด้วยกันเสมอ รวมถึงประทับใจครอบครัวอุปถัมภ์ ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น แม้จะคุยกันไม่เข้าใจ แต่เราสามารถใช้ Google Translate เป็นสื่อกลาง ทำให้ไม่เป็นอุปสรรคในการสื่อสารเลย และประทับใจที่สุดคือการเดินทางเพื่อไปตื่นเฝ้า นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้น และท้าทายมากที่สุดในชีวิต ได้เห็นถึงน้ำใจดีของเยาวชนทุกคน และความเชื่อที่รวมทุกคนมาอยู่ด้วยกัน”


อันนา พจนา สุวรรณสิงห์ (น้องพจน์)

สังกัด : คณะภคินีเซนต์ปอล เดอ ชาร์ตร

          “เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางไปยุโรป การเดินทางครั้งนี้ ได้สร้างความประทับใจให้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการพบปะกับเพื่อนๆ เยาวชนทั่วโลก ทำให้ได้เห็นความหลากหลายของวัฒนธรรม ในแต่ละประเทศ เรียนรู้การใช้ชีวิต ความแตกต่างของอาหารการกิน การได้ไปเดินแสวงบุญตามสถานที่ต่างๆ แสดงให้เห็นถึงความอดทนและการช่วยเหลือกันในหมู่คณะ การได้แบ่งปันความคิดเห็นของเยาวชนในประเทศต่างๆทั่วโลก เรื่อง เลาดาโตซี และสิทธิมนุษยชน เป็นต้น และสิ่งที่ประทับใจมากที่สุด คือ ครั้งหนึ่งได้เป็นตัวแทนในการได้เล่นเพลงในมิสซาที่ฟาติมา ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ๆ ผู้คนมากมายมาแสวงบุญและขอพรจากพระแม่มารีย์ สิ่งนี้ทำให้รู้สึกถึงการได้รับพร และรู้ว่าพระเจ้าอยู่เคียงข้างเราเสมอ สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณคณะภคิณีเซนต์ปอล เดอ ชาร์ตร ที่ให้โอกาสเป็นตัวแทนในการเดินทางครั้งนี้ และทุกๆฝ่ายของแผนกเยาวชน ที่ทำให้เกิดกิจกรรมนี้ ได้สร้างประสบการณ์ให้กับเยาวชนเพื่อเสริมสร้างความเชื่อให้พระศาสนจักรได้เดินหน้าต่อไป…”


หลุยส์ คอนซากา ไชยวัฒน์ ออเปะ (เก้ว)

สังกัด : สังฆมณฑลเชียงใหม่

          “การร่วมงานเยาวชนโลกครั้งนี้ ผมมีเรื่องความประทับใจเกิดขึ้นกับผมหลายเรื่องระหว่างที่ร่วมงาน อันดับแรก ผมประทับใจตัวแทนเยาวชนไทยทุกคน ที่ช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกันตลอดงาน 2) ผมประทับใจเจ้าภาพมากๆ ทั้งระบบการจัดการและดูแลพวกเราอย่างดี 3) ผมประทับใจครอบครัวอุปถัมภ์และชาวบ้านที่ให้การต้อนรับดูแลเอาใจใส่เหมือนดั่งคนในครอบครัว ช่วง Day in Diocese 4) ผมประทับใจความมีน้ำใจของคนโปรตุเกสมาก ที่มีวันหนึ่ง ผมหลงทางแล้วมีชาวบ้านพาผมกลับมาส่งยังที่พัก 5) ผมประทับใจเรื่องบรรยากาศของงานเยาวชนที่เต็มไปด้วยความเชื่อ ความศรัทธาและพลังของเยาวชนทั่วโลก การพบปะเพื่อนต่างชาติ การให้ความช่วยเหลือกันและกัน ระหว่างการเดินทางร่วมกิจกรรมวันเยาวชนในแต่ละวัน รวมถึงประทับใจพระสันตะปาปาฟรังซิส ที่มาอยู่ท่ามกลางบรรดาเยาวชน ถึงแม้พระองค์จะมีสุขภาพที่ไม่ค่อยสู้ดีก็ตาม สุดท้ายผมประทับใจการได้แสวงบุญในฟาติมา ครั้งแรกที่ได้เห็นแม่พระแห่งฟาติมา ทำให้รู้สึกถึงความเชื่อ ความศรัทธาและความสงบในจิตใจอย่างมาก รวมถึงภาพความประทับใจของคนจำนวนมากจากที่ต่างๆทั่วโลก มายังสถานที่แห่งนี้ เพื่อมาสวดและขอบคุณพระเจ้า”


ราฟาเอล ศวิชญ์ จลมณฑล

สังกัด : SYM (Salesian Youth Movement)

“ในงานเยาวชนโลกครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกของผม ที่ได้ไปและถือว่า งานเยาวชนโลกครั้งนี้ ทำให้ผมพบผู้คนมากมายและประสบการณ์ที่มีความหมายกับผม และทำให้ผมให้เห็นถึงพลังของเยาวชนคาทอลิก ที่มีความเข้มแข็งและอนาคตของพระศาสนจักร ซึ่งทำให้ผมรู้สึกประทับใจในงานเยาวชนโลกครั้งนี้”


นางสาวสุปรียา สายทอง (น้องอันอัน)

สังกัด : ศูนย์ประสานงานนิสิตนักศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย

“ความยินดีที่เขาแสดงออก ตอนอันบอกว่า ไม่ใช่คาทอลิก ไม่มีชนชาติไหนเหยียดอันเลย ทุกคนพูดเหมือนกันว่า ยินดีต้อนรับ คุณเก่งและกล้าหาญมาก มีความสุขกับการเดินทางครั้งนี้นะ…”


เปาโล พงศ์พันธุ์ ไพโรจน์ (น้องท๊อป)

สังกัด : คณะโฟโคราเลแห่งประเทศไทย (กิจการพระแม่มารีย์) อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

“การเดินทางไปร่วมงานชุมนุมเยาวชนโลก WYD 2023 ณ ประเทศโปรตุเกส นับเป็นงานชุมนุมเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตที่ผมเคยเข้าร่วมมา มีเยาวชนเข้าร่วมกว่าล้านคนจากทั่วโลก พร้อมใจกันร่วมเดินทางแสวงบุญฯร่วมกับพระสันตะปาปาฟรังซิส ผมได้รับรู้ถึงพลังของความเชื่อ ความศรัทธาที่มหาศาล เปี่ยมล้น ไม่อาจจะอธิบายเป็นคำพูดได้ จากการร่วมสวดภาวนา ในการเข้าร่วมพิธีมิสซาเยาวชนฯ ในการเข้าร่วมวจนพิธีกรรมฯ เดินรูป 14 ภาค และในการเข้าร่วมในคืนตื่นเฝ้าฯ และอีกทั้งได้ไปสักการะสถานแม่พระฟาติมา ซึ่งเป็นสถานที่อันดับต้นๆ ของผู้แสวงบุญคาทอลิกจากทั่วโลกอีกด้วยครับ…”


เทเรซา วุฒิพร ธีรานุวรรตน์ (น้องหมิว)

สังกัด : สังฆมณฑลสุราษฎร์ธานี

“การเข้าร่วมงานในครั้งนี้ มีความประทับใจมากมาย แต่หนึ่งสิ่งที่ประทับใจมากที่สุดคือ การได้เห็นพระสันตะปาปาใกล้มากๆ ถึงแม้จะเป็นเพียงไม่กี่วินาที แต่เป็นไม่กี่วินาทีในฐานะคริสตชนคนหนึ่ง ที่รู้สึกประทับใจมากที่สุดในชีวิต และการได้พบเจอและใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่บางคน เราอาจจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ทุกคนดูแลและห่วงใยกัน แบบครอบครัว สุดท้าย หนูอยากขอบคุณพ่อเอ้ก ที่ได้ให้โอกาสหนูได้มาร่วมทริปนี้ เป็นประสบการณ์ที่ดีและมีค่ามากๆค่ะ…”


อันนา อรพินท์ เพชรตรีทอง (น้องมานนา)

สังกัด : เยาวชนเขตวัดแจ้ห่ม จ.ลำปาง สังฆมณฑลเชียงใหม่

“สิ่งที่ประทับใจ พลังของเยาวชน การรวมตัวกันของเยาวชนจากทั่วทุกมุมโลก ที่มีเป้าหมายเดียวกัน คือการมาพบพระเยซูเจ้า ฟังสิ่งที่พระได้ตรัสกับเรา ผ่านทางพระสันตะปาปา ความน่ารักของพระสันตะปาปาที่มอบให้กับเยาวชน การได้เรียนรู้ การได้รับประสบการณ์และความเชื่อที่มากขึ้น เพื่อเป็นต้นแบบของเยาวชนที่ดีต่อไปให้กับพระศาสนจักร วิถีชีวิตของคริสตชนต่างแดนที่มีความเชื่อเดียวกัน ขอบคุณพระที่มอบช่วงเวลาที่แสนพิเศษให้มานนาลูกของพระคนนี้ มานนาเชื่อเสมอว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา คือพระพรของพระ ที่มอบให้มานนา…”


อันนา พรชนก ยงบรรทม (น้องปาล์มมี่)

สังกัด : อัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง

“ความประทับใจของปาล์มมี่ คือ ผู้คนที่มารวมตัวกันและบรรยากาศงานที่ยิ่งใหญ่ มันชวนให้น่าขนลุก และน่าทึ่ง เพราะเดินเข้างานครั้งแรกได้เจอเยาวชนทั่วโลก ที่มาจากทั่วประเทศ น้ำตาของปาล์มมี่ก็ได้ไหลออกมาเพราะไม่คิดว่าตัวปาล์มมี่เอง จะได้มายืนตรงนี้ ในงานเยาวชนโลกค่ะ ปาล์มมี่รู้สึกขอบคุณและดีใจมากค่ะ ที่ได้เข้าร่วมงานเยาวชนโลกครั้งนี้…”


ยอแซฟ รุ่งวิทย์ สุขสุทธิ

สังกัด : ผู้ประสานงานแผนกเยาวชนอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

“ความประทับใจที่เกิดขึ้น…คงต้องเป็นภาพที่บรรดาเยาวชน ‘นับล้านจากทั่วโลก’ ต่างเดินทางด้วยระยะทางไม่ต่ำกว่า 10-20 กิโลเมตร ท่ามกลางสภาพอากาศที่อุณหภูมิกว่า 40 องศาเซลเซียส พร้อมสัมภาระที่ต้องแบกกันมา เพื่อไปร่วมพิธีมิสซาในคืนตื่นเฝ้า ร่วมกันกับสมเด็จพระสันตะปาปา

บรรยากาศที่เราสัมผัสได้ตอนนั้น แน่นอนว่าทุกคนต่างก็ร้อนและเหนื่อยกับการเดินทางด้วยเท้ากับระยะไกลกันมาก บางคนถึงกับเป็นลมกันเลยก็มี

แต่ถึงอย่างนั้น ทุกคนต่างก็ไม่ย่อท้อและเดินกันต่อไปจนถึงบริเวณจัดงาน ความรู้สึกถึงสัมภาระที่หนักอึ้ง ที่พวกเราแบกกัน คงเปรียบเหมือนกางเขนที่พระเยซูเจ้าทรงแบกและเป็นโอกาสให้เราได้แบกกางเขนติดตามพระองค์ไป และมันทำให้เรารู้สึกว่า เราทุกคนต่างมีเป้าหมายที่เดียวกัน ที่จะพุ่งและมุ่งตรงไปด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ภาพที่ได้เห็นตรงหน้านี้ มันทำให้เราได้เห็นถึงความรักของพระเจ้า พระเจ้าที่รักเราโดยไม่มีข้อแม้ ไม่มีเงื่อนไข

ขอบพระคุณพระเป็นเจ้าในทุกกรณี ที่ทำให้เราได้เป็น 1 ในล้านของเยาวชน ที่มารวมตัวกันอยู่ ณ ที่นั้น ที่ได้มีโอกาสได้ไปยืนอยู่ตรงนั้น ในภาพประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งของเยาวชนโลก 2023 ณ กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส…”


มารีอา ณัฐชยา พจน์พิริยะ (ฟิวส์)

สังกัด : สังฆมณฑลจันทบุรี

“ในการเดินทางครั้งนี้ ทำให้ได้แรงบันดาลใจในการทำงานเยาวชนเพิ่มมากขึ้น ได้ไปสักการสถานที่สำคัญต่างๆ และได้เห็นถึงพลังของเยาวชนที่มาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ร่วมใจกันสวดภาวนาเดินทางกางเขน เฝ้าศีลและร่วมมิสซากับพระสันตะปาปาฟรังซิส…”


วาร์เลนติโน่ ภูเบศร์ อุปพงษ์

สังกัด : อัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง

“ประทับใจพลังความศรัทธาของเยาวชนทุกมุมโลก ถึงต่างภาษา วัฒนธรรม แต่มีความศรัทธาเดียวกัน ประทับใจรอยยิ้ม ที่เป็นภาษากายที่ง่ายที่สุด ที่เยาวชนให้กันและกัน ประทับใจการสวดสายประคำ แม้ต่างภาษา แต่เราสามารถสวดด้วยกัน พร้อมกันได้ และที่สุดประทับใจตัวแทนเยาวชนทุกคนของไทย ที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้…”

WORLD YOUTH DAY in Lisbon Portugal 🇵🇹

#WYD2023 #JMJ2023 #Lisbon


เยโนเวฟา อภิชญา เนื้อจีน (น้องขิม)

สังกัด : สังฆมณฑลสุราษฎร์ธานี

“ความประทับใจที่หนูได้รับจากงานชุมนุมเยาวชนโลกครั้งนี้ คือ การที่หนูได้เป็นตัวแทนเข้าไปยังโซนพิเศษ ใกล้ชิดพระสันตะปาปาในช่วงของการเฝ้าศีล ประทับใจความน่ารักของพี่ๆ ในค่าย โฮสแฟมิลี่และคนอื่นๆ ในเมืองที่หนูไปอยู่ที่โปรตุเกส หนูรู้สึกว่า ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ สองอาทิตย์ แต่หนูรู้สึกผูกพันและอบอุ่มมาก งานชุมนุมนี้ มีทั้งกำแพงภาษาและวัฒนธรรม แต่ทุกคนก็คอยช่วยเหลือ ทำให้งานชุมนุมนี้ผ่านไปได้ด้วยดี เป็นความทรงจำที่ดีมากๆครั้งหนึ่งในชีวิตของหนู หนูอยากจะขอบคุณและขอให้พระเจ้า อวยพรกับทุกท่านที่ได้พบเจอกันในงานชุมนุมเยาวชนครั้งนี้ค่ะ…”


ฟรังซิส อัสซีซี นัฏธภูมิ แพงไธสง (น้องคัมภีร์)

สังกัด : สังฆมณฑลนครราชสีมา

“ความประทับใจที่ผมได้รับ คือ การที่ได้ร่วมเป็นหนึ่งในบรรยากาศงานเยาวชนโลก เห็นเยาวชนทุกคนมอบมิตรภาพและความรักให้แก่กัน เห็นความโอบอ้อม ที่ทุกคนมีให้กัน มันเป็นอะไรที่น่าจดจำและน่ารักมากๆ สำหรับตัวผมครับ…”


เปาโล สิทธิสันต์ เจนผาสุก (น้องพอล)

สังกัด : YSC Thailand

เยาวชนโลกปี 2023 ณ โปรตุเกส เป็นการเดินทางที่ได้พบทั้งมิตรภาพ ประสบการณ์ และพระปรีชาญาณ ในการดำเนินชีวิต ตัวผมในฐานะเยาวชน รู้สึกประทับใจอย่างมาก และสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของพระสันตะปาปาที่ทรงมอบงานนี้ให้เป็นงานของเราเยาวชนโลกอย่างถ่องแท้ ขอบคุณครับ…”


อันตน ธาดา จิตตอำไพ

สังกัด : สังฆมณฑลราชบุรี

“การร่วมงานครั้งนี้ ระหว่างวันที่ 24 ก.ค. ถึง 6 ส.ค. เป็นช่วงเวลาที่ดี ที่ตัวแทนเยาวชน คุณพ่อ ซิสเตอร์ ผู้ประสานงาน ใช้เวลาร่วมกัน รู้จักกันมากขึ้น เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากเพื่อนใหม่ ที่มาแบ่งปัน แลกเปลี่ยนกันและกัน จากทั่วทุกมุมโลก ในวัฒนธรรมที่แตกต่าง ได้เห็นมิตรภาพและความผูกพัน ความรักที่มอบให้กันของชุมชน Porto de Mos เห็นถึงพลังแห่งความเชื่อ ความรัก ความศรัทธา ที่มีต่อแม่พระฟาติมา ได้เห็นความกล้า ความอดทน และความเชื่อ จากบรรดาเยาวชนที่เข้าร่วมงาน ในการเฝ้าคอย เพื่อพบเจอองค์สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เป็นช่วงเวลาที่พิเศษ ในการแสวงบุญและภาวนาร่วมกัน ได้เห็นความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ที่มารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ในงานเยาวชนโลกที่โปรตุเกส มิตรภาพ รอยยิ้ม ตลอดทางที่ไปร่วมกิจกรรมต่างๆ จะเห็นแต่ความสุขที่ทุกคนมอบให้กันและกัน…”


คุณพ่อ เปโตร ภูรินทร์ ศรา วาปีโส

สังกัด : คณะคามิลเลียน สังฆมณฑลเชียงราย

“เป็นความประทับใจที่ได้เห็นภาพของคนหนุ่มสาว ที่ไม่ได้กีดกันเรื่องเชื้อชาติและเผ่าพันธุ์ แสดงออกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกัน แม้บางคนอาจจะใช้ระยะทาง เวลาที่ต่างกันออกไปแต่ก็เห็นเยาวชนที่มีใจพร้อม มาร่วมงานเพื่อได้แสดงพลังถึงความรัก ความศรัทธา ในงานเยาวชนโลกครั้งนี้ เยาวชนได้แสดงพลังที่ชัดเจนและยิ่งใหญ่ในความรักหนึ่งเดียวขององค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเห็นได้ว่าพลังของเยาวชนนั้นยิ่งใหญ่เหลือเกิน…”


อากาทา กันทิยา บุดดา (น้องอุ้ย)

สังกัด : สังฆมณฑลอุดรธานี

“ความประทับใจ คือ การได้ร่วมโปรแกรมของงานเยาวชนโลก ทั้งการแสวงบุญ การเรียนคำสอน การรอเจอพระสันตะปาปา ร่วมคืนตื่นเฝ้าพร้อมกับเพื่อนเยาวชน จากทั่วโลก ทั้งได้สร้างมิตรภาพเป็นการได้รับพระพรอันยิ่งใหญ่ให้กับชีวิตนี้ค่ะ…”


มารีอา ลินดา จีสม เนียซิลิการ์ (น้องลินดา)

สังกัด : คณะโฟโคราเลแห่งประเทศไทย (กิจการพระแม่มารีย์) อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

“ประทับใจการเป็นหนึ่งเดียวกันของเยาวชนจากทั่วทุกมุมโลก เยาวชนทั้งหมดมีเป้าหมายเดียวกัน และมารวมอยู่ที่เดียวกัน ทำให้เสริมสร้างพลังและแรงบันดาลใจให้เยาวชนรุ่นหลัง เพื่อเขาจะได้เรียนรู้และนำไปเป็นแบบอย่างของความเชื่อ อันแรงกล้าของเยาวชนทุกคน

หนูรู้สึกดีใจมากที่ได้เข้าร่วมงานเยาวชนโลกครั้งนี้ มันทำให้เราได้เติบโต และทำให้เรารู้สึกว่า เราไม่ได้เดียวดาย เนื่องจากเรายังมีเยาวชนจากทุกมุมโลก ที่มีความเชื่อแบบเดียวกับเรามี แม้ว่าในไทย เราจะเป็นชนกลุ่มน้อยๆ ของประเทศ แต่พอเรามารวมกันแล้ว เราไม่ได้เดียวดายค่ะ…”


คาเบรียล ปุณณกัณต์ ชลศรานนท์ (น้องต้นสน)

สังกัด : YSC Thailand

“สำหรับความประทับใจจากงานเยาวชนโลกของผม คือ การได้เห็นผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวกันในงานงานหนึ่ง ที่ได้ยืนยันในความเชื่อของพระศาสนจักรของเรา รวมไปถึงการที่ได้เห็นผู้คนมากมาย มีความสุขไปด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคต่างๆ…”